top of page

สารจากประธานกรรมการบริหาร

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

 

ในปี 2564 เป็นปีที่เศรษฐกิจของประเทศไทยเกิดการชะลอตัว การคาดการณ์ของหลายสำนักประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ทั้งปีอยู่ที่ ร้อยละ 1 ถึง 1.3 โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 ที่ GDP ติดลบร้อยละ 0.3 ปัจจัยหลักมาจากโรคระบาด COVID-19 ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง ถึงแม้ว่ายอดขายในปี 2564 จะลดน้อยลงกว่าปีก่อนร้อยละ 1.2 แต่ด้วยความร่วมมือของพนักงานบริษัทฯทุกฝ่าย ประกอบกับโครงสร้างของบริษัทฯที่มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจสูง สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจได้ดี ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงจุดขายทั้ง 203 สาขา   ทำให้บริษัทฯ ผ่านพ้นปี 2564 มาด้วยผลกำไรที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

 

นอกจากบริษัทฯได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กระเบื้องให้มีขนาดและความหลากหลายที่ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าแล้ว ปัจจัยหลักในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะโรคระบาดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนั้น มาจากการที่บริษัทฯบริหารจุดขายทั้งหมดด้วยตัวเองทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารประสิทธิภาพในระบบงานได้อย่างละเอียด และด้วยความที่สาขามีจำนวนมากเป็นสาขาขนาดกลาง-เล็ก ครอบคลุมพื้นที่ทุกภาคของประเทศไทย ทำให้เข้าบริการลูกค้าทุกระดับถึงบ้าน ร้านค้า โครงการต่างๆและปิดการขายได้รวดเร็ว

แนวทางในการดำเนินงานสำหรับปี 2565 ทางด้านผลิตภัณฑ์ บริษัทฯได้พัฒนากระเบื้องพอร์ชเลน (Porcelain) ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำ มีความทนทานสูง และด้วยราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดเทียบเท่ากระเบื้องนำเข้าจากต่างประเทศ  เพื่อลดความเสี่ยงในการเสียส่วนแบ่งทางการตลาดของกระเบื้องนำเข้าที่มีการปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ทางด้านการบริหารจัดการสาขา บริษัทฯได้พัฒนาระบบการเติมสินค้า (Stock Replenishment) เพื่อให้มีสินค้าพร้อมขายล่วงหน้าตลอดเวลา และกำลังพัฒนาระบบการเก็บข้อมูลหน้างานเพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินผล โดยใช้ข้อมูลมหาศาลที่ทำอยู่แล้วแต่ยังคงนำมาใช้ประโยชน์ได้ไม่มาก และเสียเวลาในการรวบรวม มาจัดรูปแบบ แสดงผล และที่สำคัญสามารถกำหนดแผนงานการทำงานตามกลยุทธ์ของช่องทางต่างๆ เพื่อให้การบริการเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและถูกจุดมากขึ้นอีกด้วย

 

ในส่วนของการพัฒนาปรับปรุงภาพลักษณ์ของสาขา บริษัทฯมีแผนงานที่จะเพิ่มจำนวนโชว์รูมอีก 10 แห่ง จากปัจจุบันที่มีจำนวน 60 แห่ง นอกจากจะสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้ามากขึ้นแล้ว บริษัทฯยังได้เพิ่มพื้นที่ในโชว์รูมให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม 400 ตารางเมตรเป็นอย่างต่ำ 1,000 ตารางเมตร เพื่อให้พันธมิตรในกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้างมาเช่าพื้นที่  สร้างความหลากหลาย  เพิ่มการสัญจร (Traffic) ให้กับสาขาของไดนาสตี้อีกด้วย การซื้อที่ดินสาขาใหม่ การย้ายสาขาที่หมดสัญญาเช่า บริษัทฯได้ศึกษาถึงเงินลงทุน ตำแหน่งที่ตั้ง และรายได้ที่สามารถสร้างได้จากการลงทุนนั้นๆอย่างถี่ถ้วน นอกเหนือจากการสร้าง Traffic สำหรับกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ด้วยตำแหน่างสาขาของไดนาสตี้ อยู่บนถนนเส้นหลักทั่วประเทศไทย บริษัทฯยังได้เพิ่มพื้นที่ให้เช่าประกอบธุรกิจจำพวกร้านอาหาร ร้านกาแฟ ปั๊มน้ำมัน Charging Station ร้านซ่อมรถยนต์  ร้านขายของฝาก ไว้สำหรับจุดพักรถที่เราจะใช้ชื่อว่า   Dynasty PARK   โดยเริ่มที่สาขาในจังหวัด นครปฐม หาดใหญ่   สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ขอนแก่น ศรีสะเกษ และ เชียงใหม่ คาดว่าโครงการแรกจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 นี้

 

ทางคณะผู้บริหารได้พิจารณาถึงนโยบายในการทำงานทุกภาคส่วนอย่างละเอียด เพื่อสร้างรายได้ พัฒนาประสิทธิภาพ และ เพิ่มศักยภาพในการทำกำไรอย่างยั่งยืนและมั่นคงเพื่อเป็นผลประโยชน์แก่ท่านผู้ถือหุ้นทุกท่าน และขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯด้วยดีเสมอมา

 

 

 

ขอแสดงความนับถือ

 

มารุต แสงศาสตรา

ประธานกรรมการบริหาร

           

bottom of page